วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

อาหาร เมืองอุบล


หมี่กะทิ

           หมี่กะทิไกด์อุบลไม่แน่ใจว่า หมี่กะทิ เป็นอาหารของชาติใด หรือภาคใดของประเทศไทย แต่ที่แน่ๆ พบและกินเป็นครั้งแรกที่จังหวัดอุบลฯ ค่ะ จนถึงทุกวันนี้ เดินทางไปต่างจังหวัดก็หลายครั้ง ไม่ค่อยบพบเมนูหมี่กะทิแบบนี้ มีลักศระเป้นเส้นเล็กลวก ราดด้วยน้ำกะทิคล้ายน้ำยาขนมจีน แต่มีเต้าเจี้ยว เต้าหู้ชิ้นเล็กๆ และไข่ รวนอยู่ในน้ำราด รสชาติหวาน มันกะทิ และเผ็ดเล็กน้อย กินคู่กับผักต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นผักกาดหอมและหัวปลีหมี่กะทิ ส่วนใหญ่เป็นเมนูที่ชาวอุบลทำกินเองในครัวเรือน แม้ในอุบลฯ เอง ก็หากินยากพอสมควร หากอยากลองชิม แนะนำไปที่ร้าน พิศวงบุฟเฟ่ต์ อยู่หัวมุมสามแยกกองบิน ใกล้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พิศวงบุฟเฟต์มีอาหารหลากหลาย ในราคาเพียง ท่านละ 60 บาท หรือหากตอนเช้าไปที่ตลาดใหญ่ ริมแม่น้ำมูล แถวโซนกับข้าวอาหารสำเร็จรูป ก็มีขายค่ะเมนูที่แนะนำข้างต้นนี้ เป็นรายการอาหารแบบเน้นๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือเมืองดอกบัวค่ะ




ข้าวจี่อีสาน

           ข้าวจี่อีสานมาถึงอาหารอีสานบ้านเฮาครับ ข้าวจี่ เป็นข้าวเหนียวนึ่ง ปั้นเป็นก้อน ชุบไข่ แล้วนำมาย่างไฟอ่อนๆ ข้าวจี่บางร้านจะมีรสชาติเค็มนิดๆ ผสมกับกลิ่นหอมของไข่ชุบที่ย่างไฟ ทำให้หลงใหล ไม่มีวันลืม เป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดของชาวอีสานทั่วไป หากินง่ายค่ะ แทบจะทุกสี่แยกถนน เวลาเดินทางท่องเที่ยว ก็มักจะซื้อติดรถไว้ครับ หิวเมื่อไหร่ หยิบมากินได้ทันที อิ่มท้องและมีคุณค่าทางโภชนาการด้วยค่ะแนะนำ ข้าวจี่สี่แยกอุบลรักษ์ เจ้าประจำของไกด์อุบลค่ะ อยู่หัวมุมสี่แยกโรงพยาบาลอุบลรักษ์พอดี ร้านนี้ขายเฉพาตอนเช้าเท่านั้น







ก๋วยจั๊บญวน


             ก๋วยจั๊บญวนอาหารเช้าขึ้นชื่อของชาวอุบล ต้อง ก๋วยจั๊บญวน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ก๋วยจั๊บเส้นเล็ก หากินได้ง่ายทั่วเมืองอุบลฯ แนะนำ ร้านเจ๊เรียน อยู่แถวสี่แยกบุ่งกาแซว การเดินทาง เริ่มต้นจากหน้าอำเภอ ตรงไป ผ่านโรงเรียนอาเวมารีอา ก่อนถึงสี่แยก สั่งเกตุทางขวามือ มีร้านก๋วยจั๊บ กับร้านปากหม้อญวน อยู่ติดกัน หากชิมเป็นครั้งแรก อาจสั่งพิเศษหมูยอ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการกิน





ปากหม้อญวน


           ปากหม้อญวนอีกเมนูหนึ่ง ต้องชิมให้ได้ ปากหม้อญวน ครับ แนะนำร้านติดกันกับก๋วยจั๊บญวนเลย สองร้านนี้ นั่งร้านไหนก็ได้ สั่งอาหารข้ามร้านกันได้ เพราะเป็นพี่น้องกัน ปากหม้อร้านนี้ประยุกต์แล้ว มีหลายเมนูให้เลือก ทั้งเพิ่มหมูยอ เพิ่มใข่ ปากหม้อข้าวเกรียบ ฯลฯย้ำว่า แนะนำเป็นอาหารเช้านะครับ เพราะมื้อเที่ยงอาจพลาดได้ ร้านก๋วยจั๊บว่าง ก็นั่งร้านก๋วยจั๊บ ร้านปากหม้อว่างก็นั่งร้านปากหม้อ แล้วสั่งทั้งก๋วยจั๊บ ทั้งปากหม้อ


 
อ้างอิง https://sites.google.com/site/sthanthxngtheiywxublrachthani/xahar-praca-canghwad-xublrachthani






แหนมเนือง

             แหนมเนืองพูดถึงอาหารเวียดนาม หายท่านอาจมีร้านในดวงใจ ไปอุบลทีไรต้องแวะไปทุกที แต่ครานี้ อยากแนะนำ ร้านกิ่ง9 อาหารเวียดนาม มีอาหารเวียดนามให้ลิ้มชิมรสหลายเมนู เช่น แหนมเนือง ปากหม้อญวน ขนมเบื้องญวน ก๋วยเตี๋ยวบก ยำหัวปลี เมี่ยงสด เมี่ยงทอด ฯลฯร้านกิ่ง9 อยู่แถวจวนผู้ว่าฯ ครับ นับจากทุ่งศรีเมือง ผ่านวัดทุ่งศรีเมือง ผ่านสี่แยกวัดป่าน้อย ก่อนถึงจวนผู้ว่าฯ จะมีสามแยกขวามือ ด้านซ้ายเป็นโรงเรียนมิชชั่น ให้เลี่ยวขวาที่สามแยกนี้ ตรงไป 100 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือค่ะเมนูแนะนำเพิ่มเติม ลองชิมสเต้กหมูนะครับ เนื้อนุ่มมาก และอย่าลืมสั่ง หมากจองลอยแก้วด้วยครับ อร่อย และมีสรรพคุณเพื่อสุขภาพด้วย


   
อ้างอิง https://sites.google.com/site/sthanthxngtheiywxublrachthani/xahar-praca-canghwad-xublrachthani



ขนมถ้วยหน้าหมู

            ขนมถ้วยหน้าหมูอาหารเวียดนามอีกอย่างที่ถูกปากถูกใจไกด์อุบล ต้องขนมถ้วยหน้าหมูค่ะ แต่ร้านที่แนะนำกลับอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวมิตรสัมพันธ์ ลักษณะของขนมถ้วยหน้าหมู ผมไม่แน่ใจว่า เป็นอาหารคาวหรือเป็นของหวาน ลักษณะเป็นแป้งนิ่มๆ กลมแบน ราดมากับหมู (คล้ายหมูสะเต๊ะ) หมูหยองเส้น และหอมเจียว เมื่อไหร่ไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านมิตรสัมพันธ์ ต้องสั่งมาปิดท้ายทุกทีครับร้นก๋วยเตี๋ยวมิตรสัมพันธ์ อยู่แถววัดสุปัฏนารามวรวิหาร ถ้าออกจากวัดสุปัฏน์ ให้เลี่ยวซ้าย ถึงสี่แยกข้างหน้า ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกพอดีครับ หรือถ้าอยู่ตรงวง
เวียนน้ำพุเชิงสะพานเสรประชาธิปไตยให้ตรงไปทางวัดสุปัฏน์ฯ ก่อนถึงประตูวัด มีทางแยกขวามือ ให้เลี่ยวขวา ตรงไป ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกพอดี ชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวมิตรสัมพันธ์กินก๋วยเตี๋ยวแล้ว อย่าลืมสั่ง ขนมถ้วยหน้าหมู





ปาเต

           ปาเตจังหวัดอุบลฯ อยู่ติดกับ สปป.ลาวใต้ อาหารบางอย่างก็ถ่ายทอดกันมา โดยเฉพาะชาวลาวที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสมาด้วย เลยมีอาหารฟาสฟู้ดแบบชาวลาว เรียกว่า “ปาเต” ค่ะเป็นขนมปังยัดไส้ตับบดแบบหยาบๆ คล้ายหมูสับ แล้วใส่ผักต่างๆ เช่น หัวหอม แครอท มะเขือเทศ ผักชี สั่งมาชิ้นนึง กินกันได้หลายคนแนะนำปาเต ร้านดาวกาแฟ ครับ อยู่เยื้องวิทยาลัยสารพัดช่าง ที่นี่มีกาแฟชื่อดังของประเทศลาวคือ ดาวกาแฟ ทั้งกินที่ร้าน และจำหน่ายแบบแพคไปชงที่บ้าน กาแฟสด อาจกินร้านไหนก็ได้ แต่ถ้าอยากลองปาเต สไตล์ลาวแท้ ต้องที่นี่ครับ ร้านดาวกาแฟ




ข้าวจี่เวียดนาม


           ข้าวจี่เวียดนามแนะนำปาเต ฟาสต์ฟู้ดลาวแล้ว ก็ต้องแนะนำฟาสต์ฟู้ดเวียดนามด้วยค่ะ เรียกว่า ข้าวจี่เวียดนาม เป็นขนมปังชิ้นเล็กกว่าปาเต ผิวและเนื้อขนมปังจะนุ่มกว่า ผ่ากลางทาเนย ยัดไส้ด้วย หมูสับ หมูยอ กุนเชียง มีผักเล็กน้อย มักจะเสิร์ฟคู่กับไข่กะทะแนะนำ ร้านเจ๊ตี๋ ข้าวจี่เวียดนาม อยู่ถนนยุทธภัณฑ์ค่ะ เริ่มจากถนนเขื่อนธานี ตรงสี่แยก ททท.อุบลฯ หัวมุมสี่แยกเป็นร้านขายเครื่องไฟฟ้า ตรงไปทางวัดหลวง ร้านจะอยู่ขวามือ สังเกตุว่าจะตรงข้ามกับร้านทำกรอบรูปค่ะร้านข้าวจี่เวียดนามร้านนี้ มีจุดเด่นตรงที่แป้งจะหอม และนุ่มมาก ส่งขนมปังไปยังร้านอาหารเช้าทั่วเมืองอุบลฯ จะกินแบบเป็นข้าวจี่มีเครื่องครบ หรือจะกินขนมปังเปล่าๆ ไม่ต้องจิ้มอะไรเลย ก็อร่อย

















สถานที่ท่องเที่ยว เมืองอุบล

วัดทุ่งศรีเมือง


         วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่เลขที่ 95 ถนนหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ทางทิศตะวันออกของ ทุ่งศรีเมือง ใกล้กับสถานที่ราชการ คือ ไปรษณีย์โทรเลข สำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี  มีเนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวาสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2356 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2  เจ้าคุณพระอริยาวงศาจารย์ญาณวิมล อุบลสังฆปาโมกข์ (สุ้ย หลักคำ) แห่งวัดป่าแก้วมณีวัน (คือวัดมณีวนาราม หรือวัดป่าน้อยในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานีโดยกำเนิด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองคณะสงฆ์เมืองอุบลราชธานี (หรือตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีในปัจจุบัน) ท่านมีอัธยาศัยน้อมไปทางวิปัสสนากรรมมัฎฐาน แต่เดิมท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ต่อมาได้มา เจริญสมณธรรม อยู่ที่ป่าหว้าชายดงอู่ผึ้ง เพราะเป็นที่สงบสงัด ที่นั่นคือ บริเวณวัดทุ่งศรีเมืองในปัจจุบันนั้นเอง







อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

           อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียมอำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วย สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติ มากมายเช่นผาชัน น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาเฉลียง ถ้ำปาฏิหารย์ ภูนาทาม ในอดีตชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินใน บริเวณใกล้เคียง พื้นที่ป่าภูผา น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่า ดังกล่าว เนื่องจากมีความเชื่อว่าผาแต้ม เป็นเขตต้องห้าม ภูผาเหล่านี้มี ความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าเป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไป มักมีอันเป็นไป อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ผาแต้มมีชื่อเสยงโด่งดังเมื่อเมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาภาควิชา มนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ได้มาทำการสำรวจและค้นพบ ภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้มจึงได้เสนอต่อ กองอุทยาน แห่งชาติ กรมป่าไม้ ขอให้จัดตั้งป่าภูผาในบริเวณผาแต้ม เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้รับการประกาศให้เป็น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศไทยและถือได้ว่า เป็นอุทยานแห่งชาติ แห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและ ประเทศลาวเป็นแนวเขต อุทยานแห่งชาติที่ยาวที่สุดทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ทางฝั่งประเทศลาวได้เป็นอย่างดี






สามพันโบก


          แก่งสามพันโบก เริ่มเป็นที่รู้จักและปรากฎสู่สายตานักท่องเที่ยวเมื่อโฆษณาของ ท.ท.ท. ชุดพี่เบิร์ด เริ่มออก ฉายภาพสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นฉากจบของโฆษณาชุดนี้จึงกลายเป็นคำถามว่า ที่ไหนกัน เมืองไทยมีที่แห่งนี้ด้วย นับแต่นั้นมา แก่งสามพันโบก จึงกลายเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักและได้รับความนิยม แก่งสามพันโบกเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก โบก หรือแอ่ง หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ ลำน้ำโขง และคำว่า “โบก” เป็นภาษาของลาวที่มักนิยมเรียกกัน และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำกลายเป็น ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขง ที่สวยงาม แปลกตา จนชาวบ้านเรียกว่า แกรนด์แคนยอนน้ำโขง








หาดสลึง

          หาดสลึง ตั้งอยู่ที่บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 115 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 2050 (อุบลฯ – ตระการพืชผล – โพธิ์ไทร) สำหรับที่มาของชื่อ “หาดสลึง” นั้นเชื่อว่า ในสมัยที่เหรียญสลึง 1 เหรียญสามารถซื้อควายได้ 1 ตัว คนที่มาเล่นน้ำสงกรานต์ที่หาดแห่งนี้ได้ตั้งคำท้าทายความสามารถโดยมีเดิมพันว่า กลางเดือนเมษายน ในเวลาเที่ยงวัน หากใครสามารถเดินหรือวิ่งบนหาดได้ตลอดแนว (ระยะทาง 860 เมตร) โดยไม่แวะพัก จะได้รับเงินเดิมพัน 1 สลึง ซึ่งนับตั้งแต่มีการเดิมพันมาไม่เคยมีใครได้รางวัลนี้เลย ชาวบ้านจึงขนานนามหาดแห่งนี้ว่า “หาดสลึง”  ที่หาดสลึงแห่งนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก เรือนำเที่ยวแบบเหมาลำ ตลอดจนมัคคุเทศก์ท้องถิ่น หาดสลึงจึงเหมาะที่จะใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวทางน้ำเป็นอย่างมาก







บ้านคำปุน

         บ้านคำปุน (bancompoon) เป็นแหล่งผลิตงานหัตถศิลป์ผ้าทอมือ และแหล่งอนุรักษ์ศิลปะพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะกึ่งพิพิธภัณฑ์ เป็นของเอกชน ตั้งอยู่เลขที่ 331 ถนนศรีสะเกษ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

         บ้านคำปุน ถือได้ว่าเป็นแหล่งผลิตหัตถกรรมผ้าไหมทอมือที่มีชื่อเสียงของจังหวัด ปัจจุบันบ้านคำปุนมีช่างทอผ้ามากกว่า 30 คน ผลิตผ้าไหมด้วยกี่ทอมือ ผลิตผ้าไหมตามขั้นตอนแบบดั้งเดิมใช้เครื่องมือ เครื่องไม้แบบโบราณโดยไม่ใช้เครื่องจักรทุ่นแรงอื่นใด เช่น การเตรียมเส้นใย ก็ใช้วิธีการตีเกลียวจากการปั่นมือด้วยไน ผ้าทอมือที่มีชื่อเสียงของบ้านคำปุนคือผ้าไหมมัดหมี่ทอผสมเทคนิคจก ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งผลิตเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการประดิษฐ์คิดค้นผ้าไหมแบบต่างๆ เช่น ผ้าไหมมัดหมี่ทอสอดเสริมเส้นพุ่งด้วยลูกปัดแก้วหรือหินต่างๆ และเม็ดเงิน รวมทั้งผ้าทอยกทองแบบอุบลฯ นอกจากนี้บ้านคำปุนยังเป็นผู้นำในการคิดค้น “ผ้ากาบบัว”คือเป็นผ้าเอกลักษณ์ ประจำจังหวัดอุบลฯ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมส่งเสริมให้ใช้อย่างแพร่หลาย

อ้างอิง http://hugubon.com


อ้างอิง http://hugubon.com


อ้างอิง http://hugubon.com




แก่งสะพือ

          แก่งสะพือ เป็นแก่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งที่อยู่ในแม่น้ำมูล ในเขตอำเภอพิบูลมังสาหาร ห่างจากตัวจังหวัด อุบลราชธานีประมาณ 45 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217แก่งสะพือเป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า"ซำพืด"หรือ"ซำปื้ด" ซึ่งเป็นภาษา ส่วยที่แปลว่า งูใหญ่ หรืองูเหลือมแก่งสะพือ จะมีหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อน กระแสน้ำไหลผ่านกระทบหิน แล้วเกิดเป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา ริมแก่งจะมีศาลาพักร้อนตั้งอยู่ สำหรับให้นักท่องเที่ยวนั่งชมทัศนียภาพของแก่ง ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม แก่งสะพือจะมีผู้นิยมไป เที่ยวกันมาก เพราะน้ำจะลดทำให้เห็นแก่งได้ชัดเจนและสวยงาม ส่วนในฤดูฝนน้ำจะท่วมแก่ง นอกจากนี้แล้วในเดือนเมษายนของทุกปี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศบาลตำบลพิบูลมังสาหาร ก็ได้กำหนดจัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสืบทอดประเพณีอันดีงามไว้ ซึ่งในงานนี้ก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก










วัดหนองบัว อุบลราชธานี

          วัดหนองบัว ชาวอุบลนิยมเรียก วัดพระธาตุหนองบัว เป็นวัดที่มีชื่อเสียง และมีความสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี และมีสถาปัตยกรรม ที่งดงามและน่าสนใจ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรจะได้แวะมาเที่ยวชมและสักการะสิ่งศักดิ์ที่วัดแห่งนี้ นั่นคือ “พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ” พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์นี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 ได้จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในเป็น ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หลังจากนั้นได้มีการบูรณะและสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์องค์ปัจจุบันครอบ องค์พระธาตุเดิมไว้



            พระธาตุองค์ใหม่ที่สร้างขึ้นเป็นองค์สีขาว ตัดกับลวดลายสีทองอย่างงดงามวิจิตรบรรจง ภายนอกเป็นภาพนูนต่ำที่องค์พระธาตุด้านนอก บอกเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับพระเจ้าสิบชาติ ด้านล่างรอบพระธาตุเป็นพุทธสาวกในบวรพุทธศาสนาส่วนฐานรองรับองค์พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ด้วยพญานาค ครุฑและ ยักษ์สำหรับกำแพงแก้วทั้ง 4 ด้านประดิษฐานพระเจดีย์องค์เล็กไว้ทั้งสี่มุม ลวดลายเทพพนม เทวดาต่าง ๆ บนองค์พระธาตุเล็กนั้นก็มีความงดงาม ไม่แพ้กัน นอกจากนี้ด้านหลังของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ มีพระวิหารภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน และพระพุทธรูปที่งดงามหลายองค์ นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปกราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล




น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)

         น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกลงรู หนึ่งเดียวในเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ บ้านทุ่งนาเมือง ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ชื่อของน้ำตกเรียกตามลักษณะของสายน้ำที่ตกผ่านลงรูหิน ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกแสงจันทร์นั้น เรียกตามสายธารน้ำตก ที่โปรยละออง ผ่านช่องหินลงมาเป็นสีขาวนวลคล้ายแสงจันทร์โดยเฉพาะในวันเพ็ญ ที่แสงจันทร์จะสาดส่องมาตรงรูหินพอดี พร้อมกับละอองของธารน้ำตก ที่โปรย ดูเป็นประกายสีนวลสวยงามมาก ซึ่งทั้งหมดนี้คือที่มาของชื่อและเสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้ ที่ยังคงเก็บความงามสงบประสานอย่าง กลมเกลือนของธรรมชาติไว้ให้เป็นที่ประทับใจ







วัดศรีอุบลรัตนาราม


          วัดศรีอุบลรัตนาราม (วัดศรีทอง)ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัด ถนนอุปราช สร้างเมื่อ พ.ศ. 2398 วัดนี้มีพระอุโบสถที่สร้างตามแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ กรุงเทพฯ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองคือ พระแก้วบุษราคัม เป็นพระพุทธปฏิมากรปางมารวิชัย สมัยเชียงแสน แกะสลักจากแก้วบุศราคัม  
          ปัจจุบันได้มีการบูรณะขึ้นใหม่โดยใช้วัสดุและการตกแต่งแบบเดิม และได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ปี 2549 โดยชั้นบนของอาคารใช้เป็นที่เก็บและจัดแสดงวัตถุโบราณต่างๆ ซึ่งมีอายุนับร้อยปี ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา เช่น ตู้เก็บพระไตรปิฎก ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ตู้เก็บคำภีร์ไบลานถุงผ้าใหมสำหรับเก็บคัมภีร์ บาตรและเชิงบาตรสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น รวมทั้งฮางฮด (รางน้ำทำจากไม้ แกะสลักเป็นรูปพญานาค) ที่ใช้ในการสรงน้ำพระแก้วบุษราคัมของวัดศรีอุบลรัตนาราม

อ้างอิง http://www.touronthai.com


อ้างอิง http://www.touronthai.com






ที่มา

http://www.dhammathai.org/watthai/northeast/watthoongsrimuang.php


http://www.paiduaykan.com/76_province/Northeast/ubonratchathani/patam.html


http://www.paiduaykan.com/76_province/Northeast/ubonratchathani/samphanboke.html